ISW, 26 มีนาคม

▪️Hanna Malyar เรียกร้องให้งดการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีตอบโต้ของยูเครนที่อาจเกิดขึ้น
▪ กองทหารรัสเซียโจมตีแนว Svatovo-Kreminna
▪ พันเอกเชเรวาตี ตัวแทนกองกำลังกลุ่มตะวันออกของยูเครน ประกาศโจมตี 10 ครั้งในทิศทางคูเปียน-ไลมาน
▪ กองทหารรัสเซียโจมตีบาคมุทและบริเวณโดยรอบและประสบความสำเร็จเล็กน้อยภายในเมือง บนสาย Avdiyivka-Donetsk และประสบความสำเร็จเล็กน้อยใน Marinka
▪️นาตาเลีย ฮูเมนยุก หัวหน้าศูนย์ข่าวประสานงานสหยูเครนแห่งกองกำลังป้องกันภาคใต้ กล่าวว่า กองกำลังรัสเซียทางตอนใต้ของยูเครนขาดขีปนาวุธและยูเอวี
▪️ แหล่งข่าวในสหพันธรัฐรัสเซียรายงานเกี่ยวกับการก่อตัวของกองพันอาสาสมัคร “พายุเฮอริเคน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการก่อวินาศกรรมและการลาดตระเวนกองพลที่ 1 “หมาป่า” ของการก่อตัวที่ผิดปกติในพื้นที่ Avdiyivka

เหตุการณ์ยูเครน-รัสเซีย 8 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

ตั้งแต่การปฏิวัติที่เกิดขึ้นในไมดาน จนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ของยูเครนและรัสเซียตลอด 8 ปีที่ผ่านมาที่เกิดในยูเครน

ปี 2014: การปฏิวัติไมดาน Maidan และการผนวกไครเมียพฤศจิกายน 2013 ถึง กุมภาพันธ์ 2014

เหตุการณ์เกิดเมื่อไม่กี่วันก่อนที่จะมีการลงนาม ประธานาธิบดียานูโกวิช ประกาศว่าเขาจะปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงสมาคมกับสหภาพยุโรปเพื่อนำยูเครนเข้าสู่ข้อตกลงการค้าเสรี เขาอ้างแรงกดดันนั้นมาจากรัสเซียเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจของเขา ซึ่งการประกาศดังกล่าวจากประธานาธิบดีทำให้เกิดจุดชนวนการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศยูเครน ซึ่งถือเป็นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การปฏิวัติสีส้ม ประชาชนเรียกร้องให้ ประธานาธิบดี ยานูโกวิช “ลาออก” ผู้ประท้วงเริ่มตั้งแคมป์ในจัตุรัส Maidan Square ในเมืองเคียฟและยึดอาคารของรัฐบาล รวมถึงศาลากลางของเคียฟและกระทรวงยุติธรรมในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ความรุนแรงระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย เพียงสัปดาห์เดียวกลายเป็นสัปดาห์นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์หลังจากที่ยูเครนได้แยกตัวออกจากโซเวียต

ก่อนการลงมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี ตามกำหนดในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2014 ยานูโกวิชได้หลบหนีไปยังรัสเซียได้สำเร็จ รัฐสภาของยูเครนลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ถอดยานูโกวิชและแต่งตั้งรัฐบาลขึ้นมาชั่วคราว ประกาศว่าจะลงนามในข้อตกลงของสหภาพยุโรปและลงมติให้ปล่อย ยูเลีย ทีโมเชนโก (Yulia Tymoshenko อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของยูเครนและนักการเมือง) ออกจากคุก

รัฐบาลใหม่ได้ตั้งข้อหายานูโกวิชในการสังหารหมู่ผู้ประท้วงในไมดานและออกหมายจับ แต่รัสเซียประกาศว่าการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลยูเครนเป็นการรัฐประหารที่ผิดกฎหมาย ระหว่างนั้นทหารรัสเซียติดอาวุธได้ไปปรากฏตัวที่จุดตรวจพร้อมด้วยอาวุธอุปกรณ์ครบครัน ซึ่งได้เตรียมพร้อมรออยู่แล้วในคาบสมุทรไครเมียแทบจะทันที ซึ่งปูตินในตอนแรกปฏิเสธว่าทหารเหล่านั้นไม่ได้เป็นทหารของรัสเซียแต่ท้ายที่สุดเขาก็ออกมายอมรับว่าเป็นทหารของรัสเซีย

มีนาคม 2014

ด้วยกองทหารรัสเซียที่ควบคุมคาบสมุทรไครเมีย รัสเซียจึงลงมติให้ไครเมียแยกตัวจากยูเครนและเข้าร่วมกับรัสเซีย โดยได้มีการลงประชามติให้ประชาชนโหวตกันเองโดย 97% ของผู้อยู่อาศัยลงคะแนนเห็นชอบให้แยกตัวออกจากกัน แม้ว่าผลลัพธ์จะยังไม่เป็นที่สรุปแน่ชัดก็ตาม ปูตินจึงสรุปการผนวกไครเมียของรัสเซียโดยการประกาศเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2014 ต่อรัฐสภาของรัสเซีย และเพื่อเป็นการตอบโต้ของฝั่งสหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปจึงกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และพวกเขาไม่เคยยอมรับการผนวกรัสเซียของแคว้นไครเมียเลย

เมษายน 2014

กองกำลังรัสเซียประมาณ 40,000 นายมารวมตัวกันที่ชายแดนตะวันออกของยูเครน ความรุนแรงได้ปะทุขึ้นในภูมิภาค Donbas ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นความรุนแรงที่ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้ กองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุน บุกโจมตีอาคารรัฐบาลในเมืองต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครน โดยรัสเซียให้การปฏิเสธว่ากองกำลังของตนไม่ได้อยู่บนดินแดนของยูเครน

พฤษภาคม 2014

นักการเมืองที่สนับสนุนฝ่ายตะวันตก “เปโตร โปโรเชนโก” อดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลและหัวหน้าสภาธนาคารแห่งชาติของยูเครน ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีของประเทศยูเครน เขาส่งเสริมการปฏิรูป รวมถึงมาตรการในการจัดการกับการทุจริตและลดการพึ่งพารัสเซียในด้านพลังงานและลดการสนับสนุนทางการเงินของยูเครนที่มีต่อรัสเซีย

กันยายน 2014

วันที่ 5 กันยายน 2014 ตัวแทนจากรัสเซีย ยูเครน ฝรั่งเศส และเยอรมนีประชุมกันในเบลารุส เพื่อพยายามเจรจายุติความรุนแรงใน Donbas พวกเขาลงนามในข้อตกลงมินสค์ฉบับแรก ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างยูเครนและรัสเซียเพื่อยุติความรุนแรงภายใต้การหยุดยิงที่เปราะบาง การหยุดยิงได้สิ้นสุดลงในไม่ช้า แต่ในที่สุดก็มีการยิงกันประปรายเกิดขึ้นโดยตลอด

2015 ถึง 2020: รัสเซียปรากฏตัวอีกครั้ง

กุมภาพันธ์ 2015

กลุ่มมินสค์พบกันอีกครั้งในเบลารุสเพื่อค้นหาข้อตกลงที่ในการยุติการต่อสู้ ส่งผลให้เกิดข้อตกลงมินสค์ 2 แต่การยุติความรุนแรงก็ไม่ประสบผลสำเร็จเช่นกัน ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 14,000 คน บาดเจ็บหลายหมื่นคน และผู้พลัดถิ่นมากกว่าหนึ่งล้านคน

ปี 2016-2017ในขณะที่การต่อสู้ใน Donbas ดำเนินต่อไป รัสเซียได้โจมตียูเครนซ้ำๆหลายครั้ง รวมไปถึงการโจมตีทางอินเทอร์เน็ต โจมตีทางไซเบอร์และรวมถึงการโจมตีพลังงานไฟฟ้าของเคียฟ โดยในปี 2016 ที่ทำให้เกิดไฟดับครั้งใหญ่ ในปี 2017 การโจมตีขนาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครนรวมถึงธนาคารแห่งชาติและโครงข่ายไฟฟ้า (การโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซียยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปัจจุบันการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดมุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ของรัฐบาลซึ่งทำให้ใช้งานไม่ได้ในเดือนมกราคม 2022)

ปี 2019

ในเดือนเมษายนนักแสดงตลกและนักแสดง โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีโดยคะแนนเลือกตั้งเขาชนะแบบถล่มทลาย ซึ่งในระหว่างการหาเสียงของเขาเซเลนสกี้สาบานว่าจะรักษาสันติภาพกับรัสเซียและยุติสงครามใน Donbas ซึ่งความพยายามในช่วงแรกของประธานาธิบดีเซเลนสกี้ ในการแก้ปัญหาความรุนแรงนั้นถูกชะลอโดยประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งทรัมป์ได้บล็อกความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ให้กับยูเครนในช่วงสั้นๆและแนะนำให้เซเลนสกี้ ว่าเขาควรทำงานร่วมกับปูตินเพื่อแก้ไขวิกฤตนี้แทน ในการโทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีทรัมป์ในเดือนกรกฎาคม 2019 เซเลนสกี้ได้ถูกเชิญให้ไปเยี่ยมทำเนียบขาวเพื่อพบกับประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯ เกี่ยวกับความพยายามของยูเครนในการขับไล่รัสเซีย ทรัมป์ขอให้เซเลนสกี้ “ช่วยเหลือ”โดยการสืบสวนบริษัทน้ำมัน Burisma และ The Bidens ซึ่งขณะนั้นบุตรชายของโจ ไบเดน คือ ฮันเตอร์ ไบเดน ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารอยู่ในบริษัทนี้ ซึ่งการกระทำนี้ของทรัมป์นำไปสู่การฟ้องร้องกันของประธานาธิบดีทรัมป์ ในเดือนธันวาคม 2019

ปี 2021: วิกฤตทวีความรุนแรงขึ้น

เมษายน 2021

รัสเซียส่งทหารประมาณ 100,000 นายไปยังชายแดนยูเครน เห็นได้ชัดว่าเป็นการซ้อมรบทางทหาร แม้ว่านักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าการบุกรุกกำลังจะเกิดขึ้น แต่เซเลนสกี้ นายกยูเครนคนปัจจุบันได้เรียกร้องให้ผู้นำของนาโต้ รับยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต้ ปลายเดือนเมษายนนั้นรัสเซียกล่าวว่าจะถอนทหารออกไป แต่ยังเหลืออีกหลายหมื่นนาย

สิงหาคม 2021

เซเลนสกี้ไปเยี่ยมทำเนียบขาวเพื่อพบกับประธานาธิบดีไบเดน โดยสหรัฐ เน้นย้ำว่าสหรัฐฯมุ่งมั่น “ต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนในการเผชิญกับการรุกรานของรัสเซีย” แต่ย้ำว่ายูเครนยังไม่บรรลุเงื่อนไขที่สามารถในการเข้าร่วมนาโต้ได้

ปี 2022: ความกลัวของสงคราม

มกราคม 2022ผู้นำและนักการทูตจากสหรัฐอเมริกา รัสเซีย และประเทศในยุโรปมาพบกันหลายครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤต ในต้นเดือนมกราคม Sergei Ryabkov รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียบอกเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ว่ารัสเซียไม่มีแผนที่จะบุกยูเครนนาโต้กำหนดให้กองกำลังเตรียมพร้อมในวันรุ่งขึ้น รวมถึงสหรัฐฯ ที่สั่งทหาร 8,500 นายในสหรัฐฯ ให้พร้อมที่จะประจำการ ผู้แทนจากสหรัฐฯ และนาโต้ได้ตอบกลับข้อเรียกร้องของปูตินเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อวันที่ 26 มกราคม ในการตอบโต้ โดยกล่าวว่า “พวกเขาไม่สามารถห้ามยูเครนจากการเข้าร่วมนาโต้ได้” แต่เต็มใจที่จะเจรจาในประเด็นเล็กๆ เช่น การควบคุมด้านอาวุธกุมภาพันธ์ 2022ความพยายามทางการทูตเพิ่มขึ้นทั่วยุโรป ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ แห่งเยอรมนี เดินทางระหว่างมอสโกวและเคียฟ ประธานาธิบดีไบเดนสั่งย้ายทหารสหรัฐ 1,000 นายจากเยอรมนีไปยังโรมาเนีย และส่งทหารสหรัฐอีก 2,000 นายไปยังโปแลนด์และเยอรมนีรัสเซียส่วนเบลารุสเริ่มซ้อมรบกับรัสเซียร่วมในวันที่ 10 ก.พ.โดยมีทหารรัสเซียประมาณ 30,000 นายประจำการอยู่ในประเทศตามแนวชายแดนทางเหนือของยูเครนสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเรียกร้องให้พลเมืองของตนออกจากยูเครนในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีไบเดนประกาศส่งทหารอีก 2,000 นายจากสหรัฐฯ ไปยังโปแลนด์

“เหตุการณ์ที่มีการผนวกไครเมียและการใช้ความรุนแรงใน Donbasของรัสเซีย ได้ถือเป็นชนวนแรงผลักดันให้ประชาชนชาวยูเครนเข้าฝักใฝ่ทางฝั่งตะวันตกมากขึ้นรวมทั้งให้ความสนใจในการเข้าร่วม NATO และการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป” สถานการณ์ต่อไปไม่มีใครทราบได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขออย่าให้เกิดสงครามเป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ

ปฏิวัตในไมดาน

เคียฟเค้ก

ขนมหวานที่มีชื่อเป็นเมืองหลวงของยูเครน “เคียฟเค้ก” แสนอร่อยที่ปรุงโดยสูตรเฉพาะในสมัยโซเวียต กล่องที่มีเคียฟเค้กอยู่ข้างในเป็นของฝากที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดจากผู้ที่มาจากเมืองเคียฟ เค้กนี้มี 2 ตำนานที่เป็นรู้จักกันดีตำนานที่ 1 ในปี ค.ศ.1956 คนงานของโรงงานทำขนม Karl Marx (ปัจจุบันคือ Rochen) ได้เตรียมไข่ขาวส่วนหนึ่งสำหรับบิสกิตตัวเค้ก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาได้ลืมใส่มันลงไป เช้าวันรุ่งขึ้นหัวหน้างาน Konstantin Petrenko พบว่าหากมาใส่ไข่ขาวทีหลังเค้กจะไม่สดใหม่ เขาจึงตัดสินใจทำเค้กรูปแบบใหม่พยายามที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยการปิดเค้กด้วยบัตเตอร์ครีมโรยด้วยผงวานิลลาและวางดอกไม้ประดับเล็กน้อยไว้ด้านบน “ความผิดพลาดอันแสนหวาน” นี้ทำให้เกิดเคียฟเค้ก ซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วโลกในเวลาต่อมาแต่ตำนานที่ 2 ยืนยันว่าเคียฟเค้กสูตรนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยตั้งใจ ส่วนผู้ทำเคียฟเค้กคือหญิงสาว Nadiya Chornogor อายุ 17 ปี และ Konstantin Petrenko หัวหน้างานของเธอ ปัจจุบันไม่มีใครแน่ใจได้ว่าตำนานใดในสองตำนานนี้คือเรื่องจริง อย่างไรก็ตามเคียฟเค้กได้รับรางวัลแรกในปี ค.ศ.1957 และขนมที่มีชื่อเสียงนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการต่อมาหลังจากนั้น 17 ปีปัจจุบันบริษัท Roshen ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เคียฟเค้ก และเค้กนี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด

99

วัฒนธรรมการแต่งตัวของสาวยูเครนในเคียฟเมื่อ 100 ปีก่อน

นี่คือวัฒนธรรมการแต่งตัวของสาวยูเครนในเคียฟเมื่อ 100 ปี ก่อนที่ยูเครนจะถูกรวมเป็นโซเวียตสมัยนั้นผู้หญิงจะสวมใส่สร้อยคอปะการังที่มีสีส้มออกแดงสร้อยปะการังสีส้มนี้ถือว่ามีค่ามาก บ่งบอกฐานะของผู้ใส่ สำหรับคนที่มีฐานะยากจนจะมีใส่แค่ 4-5 ชั้น แต่สำหรับคนรวยจะมีใส่สูงสุดถึง 25 ชั้น บางพื้นที่สามารถแลกสร้อยคอกับวัวได้ 1 คู่ หรือซื้อบ้านได้เลยผู้หญิงที่แต่งงานแล้วสมัยนั้นต้องปกปิดเส้นผมไม่ให้คนภายนอกเห็นยกเว้นสามีของตนเท่านั้น เชื่อกันว่าหากไม่เช่นนั้นจะพบประสบแต่ความล้มเหลว เกิดภัยพิบัติ พืชผลที่ปลูกไว้จะเกิดล้มตาย

อนุสาวรีย์ Motherland

อนุสาวรีย์ Motherland ตั้งอยู่ในเคียฟ ประเทศยูเครน ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง รูปปั้นนี้สูง 62 เมตรและทำด้วยสแตนเลสทั้งหมด ฐานของมันเป็นห้องโถงพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งภายในมีชื่อของทหารและคนงานกว่า 11,000 คน ที่ได้รับตำแหน่ง ฮีโร่ของโซเวียต หรือ ฮีโร่ของแรงงานสังคมนิยม สลักบนแผ่นหินอ่อนขนาดใหญ่ อนุสาวรีย์มีน้ำหนัก 560 ตันร่วมกับฐาน ดาบของเธอยาว 16 เมตรในขณะที่โล่ของเธอยาว 13*8 เมตร และประดับด้วยตราประจำรัฐของสหภาพโซเวียตในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนผู้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่สองอาจเข้าไปข้างในรูปปั้นเพื่อชมวิวเมืองที่ไม่มีใครเทียบได้ ในราคาเพียง 200 UAH (apx $ 7.40) ผู้เข้าชมสามารถขึ้นไปที่โล่ซึ่งมีความสูง 91 เมตรรวมทั้งฐานของรูปปั้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนุสาวรีย์ผู้เยี่ยมชมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของคอมเพล็กซ์อนุสรณ์ http://www.warmuseum.kiev.ua

อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel of Love)

อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel of Love) ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้าน Klevan ภูมิภาค Rivne (อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยูเครน) อุโมงค์นี้เป็นทางรถไฟที่ล้อมรอบไปด้วยอุโมงค์ต้นไม้ โดยมีความยาว 3-5 กม เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคู่รักในการเดินเล่นและถ่ายรูป

1818แชร์ 1 ครั้งถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์